ไม่มีทางที่เครื่องยนต์รถจะสามารถขับขี่ใช้งานถ้าขาดน้ำมันหล่อลื่นไปได้ เรียกได้ว่าน้ำมันเครื่องเป็นองค์ประกอบสำคัญอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้ โดยจะทำให้เครื่องยนต์สามารถทำงานได้สมบูรณ์อย่างไม่มีปัญหานั้นเอง
>>>อาการหัวเทียนรถยนต์บอดเป็นอย่างไร
หน้าที่ของน้ำมันเครื่องคืออะไร น่าจะเป็นคำถามที่ใครหลาย ๆ คนคงไม่รู้ไม่ทราบอย่างแน่นอน โดยน้ำมันเครื่องเป็นสารหล่อลื่นภายในเครื่องยนต์ โดยจะคั่นกลางระหว่างผิววัตถุของเครื่องยนต์ที่เคลื่อนไหวนั้นเอง ซึ่งน้ำมันเครื่องจะเป็นฟิล์มเคลือบวัตถุเพื่อลดแรงเสียดทานที่เกิดขึ้น ในจังหวะที่เครื่องยนต์มีการเคลื่อนไหวนั้นเอง
นอกจากเป็นชั้นฟิล์มเคลือบชิ้นส่วนต่าง ๆ ภายในเครื่องยนต์แล้ว น้ำมันเครื่องยังสามารถช่วยระบายความร้อนที่เกิดขึ้นภายใน ตลอดจนป้องกันการเกิดสนิมขึ้น และน้ำมันเครื่องก็ช่วยชะล้างความสกปรกในเครื่องยนต์ไม่ว่าจะเป็นคราบเขม่า และผงโลหะต่าง ๆ ออกมายังจุดพักน้ำมันเครื่องอีกด้วย
ทั้งหมดนี้คือหน้าที่สำคัญของน้ำมันเครื่องที่จะช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างสมบูรณ์นั้นเอง อย่างไรก็ตามน้ำมันเครื่องจะมีการเสื่อมสภาพจากการใช้งานเป็นปกติ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับแบรนด์ของน้ำมันเครื่องนั้น ๆ อีกทีว่ากำหนดระยะการเปลี่ยนถ่ายไว้ที่กี่กิโลเมตรอีกด้วย
เครื่องยนต์ทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์เล็ก ๆ หรือเครื่องยนต์ใหญ่ ๆ จะต้องมีการ เช็ค น้ำ มัน เครื่องอยู่เสมอ ๆ โดยเฉพาะเป็นรถยนต์แล้ว ถือว่าเป็นอะไรที่ผู้ใช้รถยนต์ทุกคนควรจะปฏิบัติเป็นประจำจนเป็นนิสัย ถึงแม้ว่ารถยนต์ใหม่ ๆ แทบจะไม่มีอาการของน้ำมันเครื่องหายแล้วก็ตาม
การตรวจวัดน้ำมันเครื่องของรถยนต์ จะมีอุปกรณ์วัดที่ติดมากับเครื่องยนต์ เรียกว่า “ก้านวัดน้ำมันเครื่อง” ซึ่งอุปกรณ์ชิ้นนี้เองที่จะเป็นตัวเช็กระดับน้ำมันเครื่อง โดยตำแหน่งการติดตั้งของรถยนต์แต่ละรุ่นอาจไม่เหมือนกัน คุณสามารถสังเกตได้จากสายตา ตลอดจนเปิดดูคู่มือการใช้งานของรถยนต์รุ่นนั้นก็ว่าได้
>>>การดูแลรักษารถยนต์ คนมีรถยนต์จำเป็นต้องรู้
เมื่อคุณดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออกมาจากเครื่องยนต์ ตรงป้ายก้านวัดน้ำมันเครื่องจะมีอักษรภาษาอังกฤษระหว่าง F กับ L อยู่ที่ปลายด้ามวัด ซึ่งสื่อสารให้เข้าใจแบบง่าย ๆ ก็คือ การ วัด น้ำ มัน เครื่องอยู่ที่ F ไม่ว่าจะอยู่พอดีกับตัวอักษร หรือต่ำกว่าตัวอักษรก็ตามแต่ ถือว่าเครื่องยนต์มีปริมาณน้ำมันเครื่อง แต่ถ้าคราบน้ำมันเครื่องลดต่ำกว่าตัวอักษร L แล้วล่ะก็ ไม่ควรที่จะสตาร์ทเครื่องยนต์ใช้งาน เนื่องจากปริมาณน้ำมันเครื่องมีน้อยเกินไปนั้นเอง จำเป็นต้องหาน้ำมันเครื่องมาเติมเข้าไปก่อนที่จะใช้งานรถ
อธิบายการ เช็ค น้ำ มัน เครื่องแบบง่าย ๆ ก็คือ หากดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออกมาแล้วพบว่ามีคราบน้ำมันอยู่ที่ปลายก้านต่ำกว่า L ก็ไม่ควรใช้งานรถยนต์ ให้คุณไปซื้อน้ำมันเครื่องมาเติมกลับเข้าไปเสียก่อน ถึงจะใช้งานได้นั้นเอง
ขั้นตอนวัดน้ำมันเครื่องยนต์ หากต้องการหาระดับน้ำมันเครื่องที่แท้จริงต้องทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
1. จอดรถยนต์ไว้บนพื้นที่ไม่ลาดเอียง พยายามหาพื้นแนวราบที่สุด คือให้ปริมาณน้ำมันเครื่องที่จะวัดออกมาไม่ผิดเพี้ยนไป
2. ถ้าทำได้ก็คือ จอดรถยนต์ทิ้งไว้จนเครื่องยนต์เย็น ค่าน้ำมันเครื่องที่วัดออกมาจากมีความเที่ยงตรงสุด เนื่องจากน้ำมันเครื่องที่ขึ้นไปหล่อเลี้ยงตามส่วนต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ได้ไหลกลับไปสู่อ่างน้ำมันเครื่องนั้นเอง
3. หากคุณไม่สามารถรอให้เครื่องยนต์เย็นได้ ตามคู่มือรถยนต์ส่วนใหญ่จะแนะนำว่าหลังจากดับเครื่องยนต์เป็นระยะเวลาประมาณ 5 นาที ให้ทำการตรวจวัดระดับได้ เนื่องจากน้ำมันเครื่องได้ไหลกลับอ่างน้ำมันแล้วประมาณหนึ่งนั้นเอง
4. ดึงก้านชักน้ำมันเครื่องออกมา และเช็ดทำความสะอาดน้ำมันเครื่องที่ติดอยู่ปลายก้านวัดด้วยผ้าสะอาด หลังจากนั้นให้คุณเสียบก้านวัดน้ำมันเครื่องลงไปรูเดิมอีกรอบ และดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องขึ้นมาเพื่อตรวจเช็กปริมาณน้ำมันเครื่องได้เลยที่ปลายก้านเพื่อหาระดับ น้ำมันเครื่อง ที่ ถูก ต้อง
ถ้าคุณทำตามขั้นตอนที่เราแนะนำแล้วนั้น เชื่อได้ว่าการตรวจวัดน้ำมันเครื่องจะมีความแม่นยำพอประมาณเลยทีเดียว โดยปกติน้ำมันเครื่องหลังจากการใช้งานจะมีปริมาณลดลงจากเดิมเป็นปกติ แต่อยู่ในปริมาณที่น้อยมาก ๆ แต่หากพบว่าน้ำมันเครื่องลดลงจนผิดปกติแล้วล่ะก็ ให้รีบทำการตรวจเช็กว่าน้ำมันเครื่องได้ลดหายไปได้อย่างไร
การเช็กน้ำมันเครื่องว่าลดหายไปไหนนั้น เรียกว่าไม่ยากไม่ง่าย อาจต้องใช้การสังเกตกันเล็กน้อย ไม่ว่าจะเป็นการสังเกตควันรถที่ปล่อยออกมาเป็นสีอะไร ถ้าเป็นควันขาวก็คือ น้ำมันเครื่องไหลเข้าห้องเผาไหม้เรียบร้อยแล้ว จำเป็นต้องเปิดเครื่องยนต์เพื่อซ่อม ตลอดจนน้ำมันเครื่องหยดตามพื้นเวลาจอดรถ ซึ่งจะเกิดกับรถยนต์เก่า ๆ ที่ชุดยางโอริงต่าง ๆ เสื่อมสภาพ ซึ่งไม้ร้ายแรงอาจต้องหมั้นตรวจสอบปริมาณน้ำมันเครื่องว่ามีอยู่เพียงพอก็ได้
ติดตามข่าวล่าสุดได้ที่:https://rakamercedes.com/
