ในอดีตระบบแอร์ทำความเย็นถือเป็นอุปกรณ์เสริมของรถยนต์ จำเป็นต้องจ่ายเงินเพิ่มหากต้องการติดตั้ง แต่ในปัจจุบันแอร์รถยนต์ถือว่าเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่รถยนต์ในไทยต้องมีให้เป็นมาตรฐาน ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของระบบแอร์ที่จะขาดไปไม่ได้แม้แต่น้อย
ทั้งระบบแอร์ทำความเย็นของรถยนต์จะไม่ส่งผลอะไรกับการขับขี่แม้แต่น้อย โดยระบบแอร์จะเป็นเรื่องเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ขับขี่รถยนต์ ตลอดจนผู้โดยสารเป็นหลักเท่านั้น ลองคิดภาพว่าเกิดแอร์ รถ เสียขึ้นมาระหว่างขับขี่ใช้งานในกรุงเทพ ที่มีปริมาณรถยนต์ที่หนาแน่น และแยกไฟแดงที่จำนวนมาก ความร้อนของเครื่องยนต์ส่งเข้ามาในห้องโดยสาร จะไม่สามารถระบายออกไปไหนได้ ก็อบอ้าวอยู่ในห้องโดยสารนั้นเอง
>>>แอร์ไม่เย็นฉ่ำ ผู้ใช้รถต้องเช็คอย่างไร
ตามปกติของรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ที่มีอายุการใช้งานไม่กี่ปี โอกาสที่ระบบแอร์ รถ เสียมีน้อยมาก ๆ เนื่องจากทุกชิ้นส่วนของระบบแอร์ยังใหม่ ชั่วโมงการทำงานน้อย แต่เมื่อผ่านระยะเวลา 5 ปีขึ้น อาจพบเจอกับอาการต่าง ๆ ของแอร์ที่อาจเกิดขึ้นได้ตามอายุการใช้งานนั้นเอง
เมื่อแอร์รถยนต์ไม่เย็น หรือเสีย จะมีอาการเสียมาจาก ?
1. คอมแอร์เสีย
จัดเป็นหัวใจสำคัญของระบบทำความเย็น (แอร์) โดยชื่อเรียกอย่างเป็นทางการก็คือ คอมเพรสเซอร์ (Compressor) ที่จะทำหน้าที่อัดสารทำความเย็นหรือที่เราเรียกว่าน้ำยาแอร์ส่งตามไปตามท่อน้ำยาแอร์ ไหลเวียนไปตามระบบต่าง ๆ ของแอร์ จนสุดท้ายกลายเป็นไอเย็นที่เป่าออกมาในห้องโดยสารให้คุณเย็นสบายนั้นเอง
ทั้งนี้อาการ คอม แอร์ รถยนต์ เสียสามารถสังเกตแบบง่าย ๆ ก็คือ ลมที่เป่าออกมาจากช่องแอร์มีแต่ไอร้อนออกมา ไม่มีความเย็นแม้แต่น้อย ให้คาดการณ์ได้เลยว่าคอมแอร์รถยนต์เสียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งต้องเปลี่ยนคอมเพรสเซอร์ใหม่เพื่อให้แอร์ทำงานได้ดีดั้งเดิม
ตามปกติของคอมเพรสเซอร์รถยนต์รุ่นเก่า ๆ จะใช้เครื่องยนต์เป็นตัวทำให้เกิดกำลัง ซึ่งสามารถซ่อมแซมกลับมาใช้ใหม่ได้ และมีราคาที่ถูกพอสมควร แต่ถ้าเป็นรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ คอมเพรสเซอร์จะเป็นไฟฟ้าทั้งหมด ซึ่งมีข้อดีในเรื่องไม่กินกำลังของเครื่องยนต์ แต่เมื่อเสียต้องเปลี่ยนใหม่เท่านั้น
เนื่องจากระบบแอร์เป็นวงจรแบบปิด เพื่อให้มีการใช้งานที่ยืนยาวเวลาเปลี่ยนชิ้นส่วนใหม่ ๆ เข้าไปในวงจร ช่างจะแนะนำให้เปลี่ยนชิ้นส่วนอื่น ๆ พร้อมไปด้วยเป็นปกติ ซึ่งคุณไม่ต้องตกใจแต่อย่างใด
2. คอยล์แอร์รั่ว
เมื่อระบบแอร์ทำงานไม่สมบูรณ์ ยังไงแอร์รถยนต์ก็ไม่เย็นแน่นอน โดยอาการคอยล์แอร์รั่วจะเกิดกับรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานมานานแล้ว เนื่องจากการเสื่อมสภาพจากการใช้งาน ซึ่งสามารถเช็กได้จากนำน้ำผสมสบู่ให้มีฟองมาลูบ ๆ บริเวณที่สงสัย และเปิดการทำงานของแอร์รถยนต์ หากตรงไหนรั่วจะมีฟองอากาศออกมานั้นเอง
เมื่อคอยล์แอร์รั่ว จำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่เท่านั้น ไม่สามารถซ่อมแซมได้ และราคาของคอยล์แอร์ก็ไม่แพงจนเกินไปอีกด้วย
3. ถังพักสารทำความเย็น (Receiver-Drier) เสีย
อีกหนึ่งกลไกการทำงานของแอร์รถยนต์ก็ว่าได้ สำหรับถังพักสารทำความเย็น (Receiver-Drier ) หากเกิดความเสียหายขึ้นมาแล้ว ระบบการทำงานของแอร์รถยนต์ก็ไม่สมบูรณ์ เท่ากับว่าแอร์รถยนต์ก็จะไม่เย็นนั้นเอง ซึ่งจำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่เท่านั้น และมีราคาไม่แพงสักเท่าไหนสำหรับอุปกรณ์ชิ้นนี้
4. ท่อแอร์รั่ว
ถือว่ามีโอกาสน้อยมาก ๆ ที่ท่อแอร์จะรั่วได้ อาจต้องเป็นรถยนต์ที่ใช้งานมานานเป็น 10 ปีขึ้นไปเท่านั้น โดยความเสื่อมของท่อแอร์อาจอยู่ตรงข้อต่อต่าง ๆ เสียมากกว่า โดยวิธีเช็กท่อแอร์รั่วนั้นใช้วิธีการเดียวกันกับการตรวจคอยล์แอร์รั่วนั้นเอง
เมื่อแอร์ รถ เสียขึ้นมาแล้วต้องเข้าใจเสียก่อนว่า ต้องไปหาซ่อมแอร์รถยนต์เท่านั้น หรือจะเป็นศูนย์บริการรถยนต์ถ้ายังอยู่ในการรับประกัน โดยให้สอบถามราคาก่อนทำการซ่อมแซมทุกครั้ง
การซ่อมแซมระบบแอร์รถยนต์ จัดว่าเป็นการซ่อมแซมที่คุณต้องเข้าใจระบบวงจรของแอร์เสียก่อน เมื่อช่างแนะนำให้เปลี่ยนอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับแอร์ด้วย เพื่อการใช้งานที่สมบูรณ์แบบ คุณจำเป็นต้องเชื่อที่ช่างแนะนำ เนื่องจากไม่ยอมเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ช่างแนะนำนั้น อายุการใช้งานของระบบแอร์อาจจะสั้นกว่าที่ควรจะเป็น เนื่องจากอุปกรณ์เสียหายนั้นเอง
>>>การบํารุงรักษาเครื่องยนต์ เรื่องที่คนมีรถยนต์ต้องรู้
ติดตามข่าวล่าสุดได้ที่:https://rakamercedes.com/