ไม่ว่ารถยนต์คุณจะมีเครื่องยนต์ขนาดเล็กหรือใหญ่ รถเก๋ง รถกระบะ และรถบรรทุก ตลอดจนจะมีกี่ลูกสูบก็ตามแต่ บอกได้เลยว่าต้องมีตารางบํารุงรักษารถยนต์เหมือนกันทั้งหมด ซึ่งเรื่องการดูแลซ่อมบำรุงรถยนต์ถือว่าเป็นความร็พื้นฐานของคนที่มีรถยนต์ใช้งานควรรู้ไว้ประมาณหนึ่ง
ตามปกติหากเป็นรถที่มีอายุการใช้งานมาก ๆ เรียกได้ว่าอายุการมากกว่า 10 ปีขึ้น อาจไม่ต้องใส่ใจเรื่องซ่อมบำรุงมากมายสักเท่าไหร่ เนื่องจากไม่มีประกันคุณภาพใด ๆ ของทางบริษัทรถยนต์คุ้มครองแล้ว โดยส่วนมากจะใช้วิธีที่ว่า ไหนเสียหรือมีปัญหาก็ซ่อมในจุดจุดนั้นเป็นอันจิบ
อ่านเพิ่มเติม
- วิธีสังเกตน้ำมันหยดใต้ท้องรถใช่น้ำมันเครื่องหรือน้ำมันอะไร
- การบำรุงรักษาแบตเตอรี่รถยนต์ให้ใช้ได้ทนทานยาวนานขึ้น
ตารางบํารุงรักษารถยนต์ คืออะไร ?
รถยนต์แต่ละรุ่นแต่ละแบรนด์จะมีข้อกำหนดในการซ่อมบำรุงที่แตกต่างกันออกไป ขนาดเป็นรถแบรนด์เดียวแต่คนละรุ่นก็จะมีข้อกำหนดที่ต่างแตกกันเป็นเรื่องปกติ

ทั้งนี้ตารางบํารุงรักษารถยนต์จะแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
- ระยะเวลา (นับตั้งแต่วันที่ออกรถ)
- ระยะทาง (ที่วิ่งใช้งานไปแล้ว)
ไม่ว่าจะถึงการบำรุงรักษารถยนต์ข้อไหนก่อน ให้เข้าใจได้เลยว่าถึงเวลาซ่อมบํารุงรถยนต์แล้ว หากเป็นรถยนต์ใช้งานน้อยก็ให้นับเป็นระยะเวลานั้นเอง ส่วนถ้ารถยนต์ใช้งานเยอะก็ให้นับเป็นระยะทาง
ตารางบํารุงรักษารถยนต์ จะเป็นการตรวจเช็กองค์ประกอบต่าง ๆ ของรถยนต์รอบคัน ไม่ว่าจะเครื่องยนต์ ระบบเบรก ช่วงล่าง อุปกรณ์ชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่ถึงกำหนดอายุต้องดูแลซ่อมบำรุงนั้นเอง
-
น้ำมันเครื่อง (การ บํา รุ ง รักษา เครื่องยนต์)

อย่างแรกของการบำรุงรักษารถยนต์ก็คือ การการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะทางหรือเวลาที่กำหนด โดยน้ำมันเครื่องเปรียบเป็นเส้นเลือดที่ไปหล่อเลี้ยงหัวใจก็ว่าได้ เมื่อน้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพจากการใช้งานเมื่อไหร่ ประสิทธิภาพการหล่อลื่นก็จะลดลงตามไปด้วย ซึ่งเป็นผลเสียต่อเครื่องยนต์หากไม่ยอมเปลี่ยน
ทั้งนี้ระยะเวลาประมาณการถ่ายน้ำมันเครื่องจะอยู่ประมาณ 5,000 – 10,000 กิโลเมตร โดยระยะทางที่แตกต่างกันจะขึ้นอยู่กับน้ำมันเครื่องนั้น ๆ ว่ามีสรรพคุณอย่างไร ตลอดจนถ้ารถยนต์ไม่ใช่งานจนระยะทางไม่เพียงพอให้เปลี่ยนถ่าย ก็ให้นับเป็นระยะเวลา 1 ปี ก็เปลี่ยนทีก็ได้เหมือนกัน
-
ไส้กรองอากาศ (การ บำรุง รักษา รถยนต์ ดีเซล)

สิ่งที่ควบคู่กับการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องก็ว่าได้ สำหรับการไส้กรองอากาศที่มีหน้าที่กรองสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศ ไม่ให้ถูกดูดเข้าไปในระบบจุดระเบิดของเครื่องยนต์นั้นเอง
ทั้งนี้อายุการใช้งานของไส้กรองอากาศจะเฉลี่ยประมาณ 20,000 กิโลเมตร แต่เนื่องด้วยราคาไส้กรองอากาศไม่ได้สูงสักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะนิยมเปลี่ยนไปพร้อม ๆ การถ่ายน้ำมันเครื่อง ซึ่งสุดท้ายขึ้นอยู่กับความสบายใจของผู้ใช้งานเป็นหลัก
-
หัวเทียน (ตารางบํารุงรักษารถยนต์)

การเปลี่ยนหัวเทียนจะเป็นเฉพาะเครื่องยนต์เบนซินเท่านั้น โดยการจุดระเบิดของเครื่องยนต์จำเป็นต้องมีประกายไฟ ซึ่งประกายไฟเกิดมาจากหัวเทียนนั้นเอง หากหัวเทียนยังคงมีประสิทธิภาพเป็นปกติ การจุดระเบิดให้ห้องเครื่องยนต์ก็ยังจะดีเป็นปกติ การเผาไหม้ก็จะสมบูรณ์ ส่งผลทำให้เครื่องยนต์มีกำลัง
ระยะเวลาเท่าไหร่ที่ควรเปลี่ยนหัวเทียนใหม่นั้น จะเฉลี่ยประมาณ 40,000 กิโลเมตร ซึ่งเรื่องระยะทางการใช้งานของหัวเทียนอาจไม่ต้องยึดถือตามคู่มือก็ได้ สามารถเปลี่ยนได้ก่อนล่วงหน้าได้แบบไม่มีปัญหาใด ๆ
-
เบรก, ผ้าเบรก (การ บำรุง รักษา รถ บรรทุก)

ถือเป็นชิ้นส่วนที่ต้องมีการตรวจเช็กอยู่เสมอ ๆ เนื่องจากเป็นสิ่งเดียวของรถที่จะทำหน้าที่ชะลอความเร็ว ตลอดจนทำให้รถหยุดนิ่งได้ ซึ่งตามปกติผ้าเบรกจะมีการตรวจเช็กทุก ๆ ครั้ง เวลาที่เปลี่ยนยาง สลับยางหน้า – หลัง หากใกล้หมดแล้วก็สามารถเปลี่ยนรอล่วงหน้าได้เลย
-
แบตเตอรี่ (ตารางบํารุงรักษารถยนต์)

อาจไม่ต้องสนใจอะไรมากนัก แต่เมื่อถึงเวลาที่คู่ควรสามารถจับเปลี่ยนรอล่วงหน้าได้เลย เนื่องจากเวลาที่แบตเตอรี่ใกล้เสื่อมสภาพจะมีอาการที่บ่งบอกอย่างชัดเจน โดยสามารถคาดคะเนได้ว่าแบตเตอรี่แห้งจะมีอายุเฉลี่ยประมาณ 2 ปี ส่วนแบตเตอรี่น้ำจะมีอายุการใช้งานเฉลี่ย 3 ปีขึ้นไป ซึ่งจะขึ้นอยู่กับการดูแลใช้งานอีกทีหนึ่ง
-
น้ำมันเกียร์ (ตารางบํารุงรักษารถยนต์)

เป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจสำหรับรถยนต์ที่ใช้เกียร์ออโตเมติก จำเป็นต้องเปลี่ยนถ่ายตามระยะที่คู่มือกำหนด โดยแต่ละรุ่นแต่ละแบรนด์จะมีระยะการเปลี่ยนถ่ายที่แตกต่างกันออกไปตามที่วิศวกรของบริษัท ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ ทั้งนี้ระยะทางโดยเฉลี่ยการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์จะเริ่มที่ 20,000 กิโลเมตรเป็นต้นไป และอาจไปถึง 40,000 กิโลเมตร
ในส่วนเกียร์ธรรมดาบอกได้เลยว่าไม่ต้องใส่ใจในเรื่องนี้สักเท่าไหร่ เนื่องจากไม่มีกลไกใด ๆ ที่ซับซ้อน เป็นเพียงฟันเฟื่องที่ขบกันไปมา ซึ่งอาจเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ที่ระยะทาง 50,000 กิโลเมตร แบบไม่มีปัญหาใด ๆ
ตารางบํารุงรักษารถยนต์จะช่วยยืดอายุการใช้งานของรถยนต์ไปเป็นไปตามระยะเวลาที่ควรจะเป็น ซึ่งเรื่องนี้ไม่อาจมองข้ามได้แต่น้อยสำหรับใครก็ตามที่มีรถยนต์นั้นเอง
ติดตามข่าวล่าสุดได้ที่:https://rakamercedes.com/