อาการรถสตาร์ทไม่ติด มีสาเหตุเกิดจากอะไร ผู้ใช้รถสามารถแก้ไขเบื้องต้นได้ด้วยตัวเองได้อย่างไร บทความนี้มีคำตอบ
เมื่อจอดรถทิ้งไว้นาน ๆ พอจะนำกลับมาใช้งาน ดันสตาร์ทไม่ติดเสียอย่างนั้น โดยอาการรถสตาร์ทไม่ติด เกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่ส่วนใหญ่แล้วล้วนเกิดจากความเสื่อมสภาพหรือชำรุดของอุปกรณ์ที่มีอายุการใช้งานยาวนาน แต่บางครั้งระบบไฟฟ้าก็มีส่วนด้วยเช่นกัน

อ่านเพิ่มเติม
รถสตาร์ทไม่ติด เกิดจากหลายสาเหตุ
แบตเตอรี
อ่านเพิ่มเติม
สาเหตุที่ทำให้รถยนต์ที่ใช้สตาร์ทไม่ติด มาจากแบตเตอรีใกล้หมด เสื่อมสภาพ มีขี้เกลือขึ้น หรือขั้วแบตหลุด จนแบตเตอรีไม่สามารถส่งกระแสไฟฟ้าไปยังไดสตาร์ทและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้นั่นเอง สำหรับวิธีแก้ไขเบื้องต้น กรณีที่มีขี้เกลือขึ้นที่แบตให้ใช้น้ำร้อนทำความสะอาด แต่ถ้าแบตเสื่อม ให้พ่วงแบตเตอรีจากรถยนต์คันอื่น แล้วนำเข้าอู่หรือศูนย์ที่ใกล้ที่สุดเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรีใหม่
ไดชาร์จ
หากลองพ่วงแบตเตอรีแล้ว ยังสตาร์ทรถไม่ติด เป็นไปได้ว่าอาจมีสาเหตุมาจากไดชาร์จมีปัญหา เสื่อมสภาพ หรือชำรุด ควรเรียกช่างที่อู่หรือศูนย์มาตรวจสอบหาสาเหตุ หรือใช้บริการรถลากเพื่อนำรถไปที่อู่หรือศูนย์เองเลยก็ได้
มอเตอร์สตาร์ท
กรณีที่สตาร์ทรถแล้ว มีเสียงดังครืดคราด ฟังแล้วผิดปกติ หรือสตาร์ทรถไม่ติด แต่มีไฟเครื่องโชว์บนหน้าปัด เป็นไปได้ว่ามอเตอร์สตาร์ทอาจจะมีปัญหา อาทิ ฟิวส์ขาด สายไฟขาด หรือแปรงถ่านหมด สามารถแก้ไขได้ด้วยการเรียกช่างมาตรวจสอบให้ที่บ้าน หรือใช้บริการรถลากนำรถเข้าอู่หรือศูนย์ไปเลยก็ได้
สำหรับรถเกียร์ออโต้ หากสตาร์ทรถแล้วไฟเครื่องโชว์ แต่เครื่องยนต์เงียบ ไม่มีเสียงสตาร์ท ให้เช็กก่อนเลยว่าได้เข้าเข้าเกียร์เดินหน้าหรือถอยหลังค้างไว้หรือไม่ เพราะถ้าเข้าเกียร์อื่น ๆ ที่ไม่ใช่เกียร์ N หรือ P เอาไว้ จะทำให้รถยนต์สตาร์ทไม่ติด เนื่องจากระบบป้องกันอุบัติเหตุทำงานขึ้นมานั่นเอง
ติดตามข่าวล่าสุดได้ที่:https://rakamercedes.com/