แบตเตอรีรถยนต์หมด มีสาเหตุมาจากอะไร และควรทำอย่างไรเมื่อรถแบตหมด ให้คำแนะนำพร้อมวิธีแก้ไข รวมถึงการดูแลรักษาแบตเตอรีในบทความนี้
แบตเตอรีรถยนต์มาก คือที่เก็บไฟฟ้าสำรอง คอยป้อนกระแสไฟฟ้าให้กับไดสตาร์ต ระบบจุดระเบิด รวมถึงอุปกรณ์ส่วนต่าง ๆ เพื่อให้เครื่องยนต์เกิดการทำงาน หากรถแบตหมด รถจะแสดงอาการผิดปกติออกมา ดังนี้

อ่านเพิ่มเติม
แบตรถยนต์หมด มีอาการอย่างไร ?
สตาร์ตรถไม่ติด
หากลองสตาร์ตอย่างไรก็สตาร์ตไม่ติด สันนิษฐานได้ว่ารถแบตหมด ซึ่งอาการรถ สตาร์ท ไม่ ติด แบ ต หมด มีสาเหตุมาจากการที่ภายในแบตเตอรีมีประจุไฟฟ้าไม่เพียงพอนั่นเอง วิธีแก้ไขพ่วงแบตเตอรี่ หรือจะนำเข้าอู่ให้ช่างตรวจสอบและเปลี่ยนแบตเตอรีใหม่ให้ก็ได้เช่นกัน ถ้าเปลี่ยนแบตฯ ใหม่แล้วยังเกิดปัญหาเดิมอยู่ เป็นไปได้ว่าไดชาร์จอาจมีปัญหา
เซ็นทรัลล็อก-กระจกไฟฟ้าไม่ทำงาน
หากแบตเตอรี่เสื่อมจะส่งผลให้เซ็นทรัลล็อกรวมถึงกระจกไฟฟ้าจะทำงานได้ช้าลง เมื่อแบตหมด ประจุไฟฟ้ามีไม่เพียงพอให้ใช้งาน อุปกรณ์เหล่านี้จึงไม่เกิดการทำงาน เนื่องจากขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้านั่นเอง
ระบบไฟส่องสว่างใช้งานไม่ได้
ระบบไฟต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า ไฟเลี้ยว ไฟตัดหมอก ไฟภายในห้องโดยสาร จะทำงานได้ก็ต่อเมื่อมีไฟฟ้าเป็นตัวขับเคลื่อน หากแบตรถยนต์หมด จะทำให้ไฟตามจุดต่าง ๆ เหล่านี้ใช้งานไม่ได้ เพราะไม่มีประจุไฟฟ้าเพียงพอให้เกิดการทำงานนั่นเอง

สาเหตุที่ทำให้รถแบตหมด
แบตเตอรีเสื่อม
แบตเตอรีเสื่อม เกิดได้จากอายุการใช้งานที่ยาวนาน ไดชาร์จมีปัญหา รวมถึงการเปิดแอร์ ระบบไฟ รวมถึงเครื่องเสียงไฟพร้อม ๆ กันขณะกำลังขับรถ เมื่อแบตเสื่อมจะทำให้ตัวแบตเก็บประจุไฟไม่อยู่ หากไม่เปลี่ยนใหม่ ก็อาจทำให้แบตรถหมดได้
แบตเตอรีมีขี้เกลือเกาะติด
คราบขี้เกลือ (ผงสีขาว หรือฟ้า) ที่เกาะอยู่ตามขั้วแบต หัวนอต ที่รัด และฐานรองแบตเตอรี อาจทำให้เกิดสนิม จนส่งผลต่อการจ่ายกระแสไฟฟ้า ทำให้กระแสไฟเดินได้ไม่ดี รถจึงสตาร์ตไม่ติด ปล่อยไว้นาน ๆ จะทำให้รถแบตหมดได้

ไม่ปิดระบบไฟรถยนต์
ระบบไฟต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกของรถยนต์ทำงานได้เพราะมีประจุไฟฟ้าภายในแบตเตอรีเป็นตัวขับเคลื่อน หากเปิดไฟทิ้งไว้นาน ๆ หรือลืมปิดระบบไฟรถยนต์ จะทำให้แบตเตอรีรถยนต์หมดได้ไวขึ้นนั่นเอง
เมื่อรถแบตหมด ควรทำอย่างไร ?
วิธีแก้ไขเบื้องต้นเมื่อแบตรถยนต์หมด คือการพ่วงแบตเตอรี แต่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญในการทำพอสมควร หากไม่แน่ใจหรือทำไม่ได้จริง ๆ (แม้จะมีอุปกรณ์อยู่ก็ตาม) แนะนำว่าให้เรียกช่างหรือผู้ที่มีความเชี่ยวชาญมาทำให้จะดีกว่า เพราะถ้าขาดความระมัดระวัง อาจทำให้แบตเตอรีเกิดประกายไฟและระเบิดได้

วิธีดูแลรักษาแบตเตอรี่ ป้องกันไม่ให้แบตหมด
หมั่นเช็กสภาพแบตเตอรีเป็นประจำ อย่างต่ำอาทิตย์ละครั้ง หรือเดือนละครั้ง หากไม่มีรอยแตกร้าว ก็ถือว่ายังใช้งานได้ พร้อมตรวจสอบบริเวณขั้วแบต (ทั้งขั้วบวกและลบ) หัวนอต ที่รัด รวมถึงฐานรองแบตว่ามีขี้เกลือหรือสนิมเกาะอยู่หรือไม่ หากมีก็ให้เช็ดทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่น จากนั้นเช็ดให้แห้ง แล้วน้ำจารบีหรือวาสลีนมาป้ายเพื่อป้องกันสนิมที่อาจเกิดขึ้นได้
นอกจากนี้ ยังควรหมั่นเช็กระดับน้ำกลั่น (หากใช้แบตเตอรีประเภทน้ำ) ไม่ให้พร่องลงต่ำกว่าขีดบน และไม่ควรเติมให้ล้นเกินไป เพราะอุปกรณ์บริเวณนั้น รวมถึงเครื่องยนต์อาจเกิดความเสียหายได้
หากไม่ค่อยได้ใช้งานรถ หรือจอดทิ้งไว้นาน ๆ ก็ควรสตาร์ตเครื่องยนต์อย่างต่ำ 2-3 วันต่อครั้ง เพื่อให้แบตเตอรีได้ทำงาน หรือถ้าจะนำมาขับขี่ ก็ควรวอร์มเครื่องยนต์ทิ้งไว้ สัก 5-10 นาทีแล้วค่อยนำไปวิ่งบนท้องถนน รถจะได้ไม่ดับกลางทาง
ติดตามข่าวล่าสุดได้ที่:https://rakamercedes.com/