ถือว่าเครื่องยนต์เป็นหัวใจสำคัญของรถก็ได้ว่า หากรถไม่มีเครื่องยนต์แล้วก็เท่ากับว่าจะไม่มีตัวสร้างกำลังให้สามารถขับเคลื่อนได้ ตามปกติเจ้าของรถควรต้องศึกษาวิธี ดูแล เครื่องยนต์แบบเบื้องต้น เพื่อให้คุณสังเกตอาการต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ หากมีความผิดปกติเกิดขึ้น ตลอดจนเพื่อยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ให้มีอายุที่ยืนยาวแบบที่ควรจะเป็น
>>>แนะนำหลักการบํารุงรักษารถยนต
1. น้ำมันเครื่อง (การ ดูแล เครื่องยนต์)
ถือเป็นอะไรที่คนใช้รถยนต์จำเป็นต้องรู้อย่างเลี่ยงไม่ได้ สำหรับน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนเสมือนเลือดที่ไปหล่อเลี้ยงหัวใจของคนเราก็ว่าได้ หากเครื่องยนต์ไม่มีน้ำมันเครื่องแล้วล่ะก็ เครื่องยนต์ก็จะไม่ได้สามารถทำงานได้นั้นเอง
หน้าที่ของน้ำมันเครื่อง
– หล่อลื่นชิ้นส่วนต่าง ๆ ภายในเครื่องยนต์ ซึ่งเรียกได้ว่ามีหน้าที่ตามชื่อเรียกก็ว่าได้ เมื่อเครื่องยนต์มีการทำงานตัวของน้ำมันเครื่องจะเข้าไปหล่อลื่นชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่มีการเคลื่อนไหวภายในเครื่องยนต์ โดยน้ำมันเครื่องจะสร้างฟิล์มบาง ๆ เคลื่อบชิ้นส่วนต่าง ๆ ป้องกันการสัมผัส ลดการเสียดสี ตลอดจนชะลอการสึกหรอของเครื่องยนต์นั้นเอง
– ระบายร้อนที่เกิดขึ้นจากเครื่องยนต์ ถือเป็นคุณสมบัติอีกอย่างของน้ำมันเครื่องก็ว่าได้ ที่จะช่วยระบายความร้อนของชิ้นส่วนต่าง ๆ ให้อยู่ในอุณหภูมิที่ควบคุมได้ เพื่อเครื่องยนต์จะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพนั้นเอง
– รักษากำลังอัดภายในเครื่องยนต์ เมื่อน้ำมันเครื่องได้เข้าไปเคลือบชิ้นส่วนต่าง ๆ ภายในเครื่องยนต์ ไม่ว่าจะเป็นลูกสูบ แหวนลูกสูบ และกระบอกสูบ การที่มีน้ำมันเคลือบอยู่กับชิ้นส่วนเหล่านี้จะช่วยเป็นเกาะไม่ให้เกิดการรั่วไหลของกำลังอัดที่เกิดขึ้น
– ป้องกันสนิมเกิดขึ้น เมื่อเครื่องยนต์เป็นชิ้นส่วนของโลหะอย่างเหล็กเป็นองค์ประกอบที่สำคัญ น้ำมันเครื่องจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดสนิมได้
เห็นได้ชัดว่าน้ำมันเครื่องมีคุณสมบัติต่าง ๆ มากมาย จึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามแม้แต่น้อย โดยอายุน้ำมันเครื่องจะเฉลี่ยอยู่ประมาณ 10,000 กม. (*ขึ้นอยู่กับแบรนด์น้ำมันเครื่อง) หากไม่ยอมเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องหลังครบอายุการใช้งานแล้วล่ะก็ ประสิทธิภาพของน้ำมันเครื่องจะลดลงไปเรื่อย ๆ และจะส่งผลเสียกับเครื่องยนต์อย่างเลี่ยงไม่ได้
2. ตรวจเช็กระดับน้ำมันเครื่องเป็นประจำ (การ ดูแล เครื่องยนต์)
ถือเป็นเครื่องปกติที่ควรทำเป็นประจำก็ว่าได้ สำหรับการตรวจเช็กระดับน้ำมันเครื่อง ถึงแม้ว่าถ้าเป็นรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานไม่ถึง 5 ปี แทบจะไม่ต้องสนใจตรวจเช็กก็ว่าได้ เนื่องจากระบบที่ยังสมบูรณ์นั้นเอง ผิดแปลกกับรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 10 ปี เรียกได้ว่าต้องหมั่นตรวจเช็กทุกวันที่ใช้รถยนต์ก็ว่าได้
การตรวจเช็กระดับน้ำมันเครื่องเป็นอะไรที่ไม่ยากเย็น ใคร ๆ ก็สามารถทำได้ โดยการดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องมาตรวจสอบว่าระดับของน้ำมันเครื่องอยู่ในเกณฑ์ปกติไหม หากมีความผิดปกติในเรื่องระดับน้ำมันเครื่องที่ลดหายไปแล้ว ให้ทำการหาสาเหตุให้เจอว่าเกิดจากอะไรกันแน่
3. ไส้กรองอากาศ (วิธี ดูแล รักษา เครื่องยนต์)
อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องดูแลก็คือไส้กรองอากาศ เนื่องจากระบบจุดระเบิดของเครื่องยนต์จะเป็นการผสมกันระหว่างน้ำมันเชื้อเพลิงกับอากาศนั้นเอง โดยอากาศที่ใช้ในการจุดระเบิดก็ถูกดูดผ่านไส้กรองอากาศนั้นเอง
ตามปกติไส้กรองอากาศควรเปลี่ยนใหม่ทุกระยะทางประมาณ 20,000 กม. หรือทุกครั้งที่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องก็ว่าได้ เพื่อให้อากาศที่ไหลผ่านเข้าไปจุดระเบิดในเครื่องยนต์ยังไหลผ่านได้เป็นปกติ หากปล่อยที่ไว้ไม่ยอมเปลี่ยนอากาศที่ไหลผ่านจะลดน้อยลงจากการอุดตัน ทำให้ประสิทธิภาพการจุดระเบิดไม่ดีดั้งเดิม
4. หัวเทียน
หัวเทียน ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญของเครื่องยนต์อีกหนึ่งชิ้น ที่ต้องมีการเปลี่ยนตามระยะทางที่กำหนด โดยหน้าที่ของหัวเทียนก็คือ จะปล่อยกระแสไฟฟ้าแรงดันสูงออกมาในการจุดระเบิดของเครื่องยนต์นั้นเอง ซึ่งถ้าหัวเทียนเสื่อมสภาพจนไม่สามารถปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมาได้ เท่ากับว่าไม่สามารถจุดระเบิดได้นั้นเอง
ทั้งนี้เครื่องยนต์ที่ใช้หัวเทียนจะเป็น เบนซิน เพียงเท่านั้น แต่ในส่วนของดีเซลใช้การจุดระเบิดอีกรูปแบบ ไม่จำเป็นต้องใช้หัวเทียนนั้นเอง ซึ่งการดูแลหัวเทียนบอกได้เลยว่าไม่มีอะไรยุ่งยาก ถ้าเป็นรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ จะมีตารางซ่อมบำรุงกำหนดมาอยู่แล้วว่า ต้องวิ่งเป็นระยะทางเท่าไหร่ถึงต้องเปลี่ยน แต่ถ้าเป็นรถยนต์รุ่นเก่า ๆ อาจเน้นนับระยะแทน เฉลี่ยอยู่ประมาณ 40,000 กม.
เรียกได้ว่าหัวข้อที่กล่าวมาทั้งหมดคือวิธี ดูแล เครื่องยนต์ที่คนมีรถจำเป็นต้องรู้ก็ว่าได้
>>>ตารางการบํารุงรักษารถยนต์ toyota ทุกคนต้องรู้
ติดตามข่าวล่าสุดได้ที่:https://rakamercedes.com/
