ถึงแม้ว่าแอร์รถยนต์จะไม่มีบทบาทใด ๆ กับการใช้งานรถยนต์ก็ว่าได้ ซึ่งตามปกติหัวใจที่สำคัญของรถยนต์จะเป็นเครื่องยนต์ เกียร์ และระบบเบรก แค่เพียงเท่านี้รถยนต์ก็สามารถใช้งานวิ่งขึ้นเหนือล่องใต้ได้อย่างไม่มีปัญหา ในส่วนของแอร์รถยนต์จะเรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์ที่สร้างออกมาเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายแก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารภายในรถก็ว่าได้
>>>เมื่อคันเร่งรถยนต์ค้าง ต้องปฏิบัติอย่างไร ?
>>>เมื่อแอร์รถไม่เย็น ซ่อมกี่บาท ?
ในอดีตย้อนกลับประมาณ 30 ปีก่อน แอร์รถยนต์ถือได้ว่าเป็นอุปกรณ์เสริม จำเป็นต้องเสียเงินเพิ่มถ้าอยากได้ เรียกได้ว่าไม่ใช่รถยนต์ทุกคันจะมีมาให้จากโรงงานก็ว่าได้
อย่างที่กล่าวไปว่าแอร์รถยนต์ไม่มีผลใด ๆ กับการขับขี่ แต่มันส่งผลต่อผู้ขับขี่โดยตรงในเรื่องความสะดวกสบายนั้นเอง หากคุณใช้งานอยู่ในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น การที่รถจอดติดนิ่ง ๆ และไม่มีลมใด ๆ ช่วยพัดให้อากาศเย็นเลยล่ะก็ บอกได้เลยทรมานไม่ใช่เล่น เนื่องจากความร้อนของเครื่องยนต์ที่เข้ามาในห้องโดยสารที่เพิ่มพูนเข้าไปจากสภาพอากาศปกติ
เมื่อแอร์รถยนต์มีปัญหา ถือว่าเป็นส่วนที่จะรีบซ่อมหรือไม่รีบซ่อมก็ว่าได้ ขึ้นอยู่กับความสะดวกของตัวคุณเอง โดยตามปกติจะไม่นิยมซ่อมแอร์กันเอง เนื่องจากต้องใช้อุปกรณ์ที่เฉพาะทาง ตลอดจนน้ำยาแอร์ หากลงทุนซื้อมาเพื่อซ่อมเองดูไม่คุ้มกับเงินที่เสียไปก็ว่าได้
1. คอมเพรสเซอร์มีปัญหา (แอร์รถไม่เย็น ต้องปิดแล้วเปิดใหม่)
หากคอมเพรสเซอร์มีปัญหาเกิดปัญหาขึ้นมา ระบบแอร์จะไม่สามารถใช้งานได้เลย คุณสามารถสังเกตอาการได้ง่าย ๆ จากแอร์รถยนต์จะมีเพียงการพ่นลมร้อน ๆ ออกมาเพียงเท่านั้น
ทั้งนี้หน้าที่ของคอมเพรสเซอร์ก็คือ เพิ่มความดันให้กับสารที่ทำความเย็นให้กลายเป็นไอ ซึ่งคอมเพรสเซอร์จะดูดสารทำความเย็นที่เป็นไอความดันต่ำจากเครื่องระเหยเข้ามาทางท่อดูดของคอมเพรสเซอร์ และอัดไอของสารทำความเย็นนี้ให้มีความดันและอุณหภูมิที่สูงขึ้น ก่อนที่จะส่งไปยังคอนเดนเซอร์ อาจอ่านแล้วดูงง ๆ ก็บอกง่าย ๆ ได้ว่าคอมเพรสเซอร์ คือหนึ่งในระบบสำคัญของแอร์รถ และมีราคาที่สูงพอสมควรหากเปลี่ยนใหม่
2. แอร์รถยนต์รั่ว (แอร์รถ ไม่เย็น เวลาจอด)
อาจเกิดจากการเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ก็ว่าได้ สำหรับอาการแอร์รั่ว โดยมักจะรั่วไหลตามข้อต่อต่าง ๆ ของระบบ ซึ่งคุณสามารถเช็กได้ด้วยตัวเองจากการใช้น้ำเปล่าและสบู่ผสมให้มีฟอง และลูปไปตามสายระบบแอร์และข้อต่อต่าง ๆ ภายในห้องเครื่อง หากจุดไหนมีการรั่วขึ้นมาจะมีฟองอากาศออกมานั้นเอง ซึ่งวิธีการนี้ต้องสตาร์ทเครื่องและเปิดแอร์ไปด้วย
3. คอยล์ร้อนเสียหาย (แอร์รถ ไม่เย็น เวลาจอด)
สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับคอยล์ร้อนอาจเกิดจากการเสื่อมสภาพจากการใช้งานเป็นหลัก ตลอดจนโดนสิ่งของกระแทกใส่จนเสียหาย (รถชน) จำเป็นต้องเปลี่ยนคอยล์ร้อนใหม่เท่านั้น ไม่สามารถซ่อมของเดิมได้
4. พัดลมระบายความร้อนไม่ทำงาน (แอร์รถไม่เย็น ต้องปิดแล้วเปิดใหม่)
อาการพัดลมระบายความร้อนไม่ทำงาน สามารถสังเกตได้ง่าย ๆ เนื่องจากรถยนต์ทั่วไปในท้องตลาดจะพัดลมระบายความร้อนอันเดียวกับของหม้อน้ำนั้นเอง หากพัดลมเสียความร้อนของรถยนต์จะขึ้นแจ้งเตือน ซึ่งเรื่องพัดลมระบายความร้อนไม่สามารถรีรอได้ จำเป็นต้องนำไปเปลี่ยนใหม่ให้ได้เร็วที่สุด ป้องกันความเสียหายของเครื่องยนต์ที่เกิดจากความร้อนสะสมที่ระบายไม่ทันนั้นเอง
5. พัดลมแอร์ไม่ทำงาน (อากาศร้อน แอร์รถไม่เย็น)
แทบจะไม่เจอปัญหานี้สักเท่าไหร่ คงต้องมีรถยนต์เก่าจริง ๆ ถึงจะเจอปัญหาพัดลมแอร์เสียไม่ทำงาน ซึ่งสังเกตอาการได้อย่างง่าย ๆ ก็ว่าได้ เมื่อคุณเปิดแอร์แล้วทุกอย่างไม่ตอบสนอง ไม่มีลมเป่าออกจากช่องแอร์ อาการเหล่าให้ต้องสงสัยได้เลยว่าพัดลมแอร์เสียนั้นเอง
สำหรับราคาค่าซ่อมแอร์นั้นไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากรถยนต์แต่ละรุ่นจะมีราคาที่ไม่เท่ากัน สิ่งที่พอจะระบุราคาได้ก็คือ การเติมน้ำยาแอร์ จะอยู่ที่หลักร้อยบาทเพียงเท่านั้น ซึ่งการเติมน้ำยาแอร์เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เนื่องจากระบบแอร์เป็นแบบปิด ถ้าระบบแอร์ของคุณสมบูรณ์น้ำยาแอร์จะไม่หายไปจากระบบนั้นเอง
ข้อแนะนำที่ดีที่สุดก็คือ จำเป็นต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ต่าง ๆ แบบยกระบบแอร์ใหม่ ซึ่งจะมีรายจ่ายที่สูง แต่เพื่อแรกกับการใช้งานที่เหมือนรถยนต์ป้ายแดงก็ว่าได้ บอกได้เลยว่าเจ็บแต่จบ ส่วนราคาค่าเสียหายบอกได้เลยว่ารถยนต์แต่ละรุ่น แต่ละแบรนด์มีราคาไม่เท่ากัน โปรดสอบถามราคาร้านแอร์ก่อนที่จะทำทุกครั้ง
