คุณอาจจะเคยได้ยินคำว่า “ไดชาร์จรถยนต์” หรือ “วงจรไดชาร์จรถยนต์” แต่ไม่รู้มันคืออะไร ในบทความนี้เราจะอธิบายเกี่ยวกับวงจรไดชาร์จรถยนต์ ไดชาร์จเสีย อาการเป็นอย่างไร และเมื่อไดชาร์จเสีย ขับได้ไหม
ไดชาร์จรถยนต์คืออะไร มีหน้าที่และการทำงานอย่างไร
วงจรไดชาร์จรถยนต์คือแหล่งผลิตไฟฟ้าให้กับรถยนต์ ไดชาร์จรถยนต์มีอีกชื่อที่เรียกว่า อัลเทอร์เนเตอร์ (Alternator) ซึ่งหมายถึง เครื่องกำเนิดไฟฟ้า บางคนเข้าใจว่า จุดเริ่มต้นของกระแสไฟฟ้าภายในรถยนต์นั้นคือแบตเตอรี่ แต่ในความเป็นจริง แบตเตอรี่รถยนต์นั้นเป็นเพียงแค่แหล่งเก็บไฟฟ้าสำรอง โดยรับกระแสไฟฟ้ามาจากไดชาร์จ ซึ่งทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อส่งกระแสไฟฟ้าไปยังอุปกรณ์ต่างๆและแบตเตอรี่
ไดชาร์จรถยนต์ทำงานได้ก็ต่อเมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์เท่านั้น การทำงานของไดชาร์จจะอาศัยกำลังส่งจากลูกรอกและสายพาน มาทำให้ไดชาร์จหมุนจึงทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าขึ้นมา ถ้าหากไดชาร์จเสีย แบตเตอรี่จะทำหน้าที่จ่ายไฟอย่างเดียว ไม่ได้รับกระแสไฟฟ้ามาจากไดชาร์จ ไฟฟ้าในแบตเตอรี่จะค่อยๆหมดลง จนทำให้สตาร์ทเครื่องยนต์ในครั้งต่อไปไม่ได้เพราะแบตหมดนั้นเอง
ไดชาร์จเสีย อาการจะเป็นแบบนี้
– มีไฟแจ้งเตือนรูปแบตเตอรี่ขึ้นโชว์ที่หน้าปัทม์ ความหมายของไฟเตือนรูปแบตเตอรี่นี้คือแบตหมด แต่สาเหตุหลักมาจากไดชาร์จเสียหรือไม่ทำงาน ในกรณีนี้เราแนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าภายในรถยนต์ให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะได้มีกระแสไฟฟ้าเพียงพอวิ่งต่อได้อีกสักพัก และจะได้ขับรถเข้าศูนย์บริการตรวจเช็คไดชาร์จได้ทัน ถ้าถามว่า ไดชาร์จเสีย ขับได้ไหม จะตอบว่า ยังคงขับได้ แต่ในระยะทางอันจำกัดเท่านั้น
– เมื่อไดชาร์จเสีย อาการของอุปกรณ์ต่างๆที่ต้องใช้กระแสไฟฟ้าในขณะนั้น เช่น ไฟหน้าและไฟภายในรถยนต์ จะเริ่มค่อยๆหรี่ลง และแอร์จะเริ่มมีความเย็นลดลง
– รอบเครื่องยนต์ตก เร่งไม่ออก ไปจนถึงเครื่องยนต์ดับ
– มีความร้อนมากขึ้น เนื่องจากไม่มีกระแสไฟไปเลี้ยงพัดลมหม้อน้ำ
– พวงมาลัยพาวเวอร์จะเริ่มค่อยๆหนักขึ้น
– ไดชาร์จมีเสียงหอน
การดูแลรักษาไดชาร์จรถยนต์
– ถ้ามีน้ำเข้าวงจรไดชาร์จรถยนต์โดยบังเอิญหรือเคยขับรถลุยน้ำท่วมมาก่อน ควรถอดไดชาร์จออกมาเป่าแห้ง ตากแดด และทำความสะอาด อย่าปล่อยให้มีน้ำหรือมีความชื้นเข้าไปในไดชาร์จ เพราะว่าน้ำจะทำให้เกิดสนิมและไฟฟ้าลัดวงจรได้
– ตรวจสอบความแน่นของน็อตที่ยึดไดชาร์จว่ายังอยู่ในสภาพแน่นดีอยู่หรือไม่ ถ้าน็อตมีการคลายตัวออกมาหรือหลวมจนทำให้ที่ยึดของขาไดชาร์จแตกหักได้
– ตรวจสอบความตึงของสายพานอยู่เสมอ หากสายพานเกิดการหย่อนจะทำให้ไดชาร์จจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และสายพานจะเสียหายได้ การตั้งสายพานนั้นไม่ควรให้ตึงจนเกินไปและไม่ควรหย่อนจนเกินไป โดยทั่วไปความตึงของสายพานจะอยู่ที่ 5-15 มม.
ส่วนมากสาเหตุที่ทำให้ไดชาร์จเสียจะมาจากการแปรงถ่านหมดที่เกิดจากการสึกหรอ หรืออาจจะมาจากชิ้นส่วนอื่นของไดชาร์จเกิดเสียหาย หากมีอาการเตือนที่กล่าวมาด้านบนนั้นควรรีบให้ช่างที่มีประการณ์ตรวจสอบทันที
เมื่อไดชาร์จเสียหรือไม่ทำงาน ไม่ควรถอดออกมาซ่อมแซมเองหากไม่มีความรู้ความชำนาญ เพราะอาจจะทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้นกว่าเดิม
ผู้ใช้รถหลายคนมีความสับสนระหว่าง ไดชาร์จเสียหรือแบตเตอรี่หมด เพราะอาการ 2 อย่างนี้คล้ายกันมาก ทางที่ดีหากตรวจสอบแบตเตอรี่แล้วยังอยู่สภาพใหม่ไม่มีการบวม แผ่นธาตุยังอยู่ในสภาพดีและน้ำกลั่นไม่ขาด ปัญหาอาจจะเกิดที่ไดชาร์จไม่ทำงานแน่นอน
ติดตามข่าวล่าสุดได้ที่:https://rakamercedes.com/